LECTURE


บทที่ 6  การออกแบบหน้าเว็บ


หลักสำคัญในการออกแบบหน้าเว็บ
คือ การใช้รูปภาพและองค์ประกอบต่างๆร่วมกันเพื่อสื่อความหมายเกี่ยวกับเนื้อหาหรือลักษณะสำคัญของเว็บให้น่าสนใจ บนพื้นฐานของความเรียบง่ายและสะดวกของผู้ใช้

แนวคิดในการออกแบบหน้าเว็บ
  • เรียนรู้จากเว็บไซต์ต่างๆ 
  • ประยุกต์รูปแบบจากสิ่งพิมพ์ 
  • ใช้แบบจำลองเปรียบเที่ยบ(Metaphor) 
  • ออกแบบอย่างสร้างสรรค์
หลักการออกแบบหน้าเว็บ
1. ลำดับชั้นความสำคัญขององค์ประกอบ

จัดตำแหน่งและองค์ประกอบ แสดงลำดับความสำคัญของข้อมูลที่ต้องการให้ผู้ใช้ได้รับ เนื่องจากภาษาส่วนใหญ่จะอ่านจากซ้ายไปขวา และจากบนลงล่าง จึงควรจัดวางสิ่งที่สำคัญไว้ที่ส่วนบนหรือทางซ้ายของหน้าอยู่เสมอ เพื่อให้ผู้ใช้มองเห็นได้ก่ออน

2.สร้างรูปแบบ บุคลิก และสไตล์

-รูปแบบ การเลือกรูปแบบเว็บที่เหมาะสมจะช่วยสร้างความเข้าใจของผู้ใช้ได้ดีขึ้น

-บุคลิก บุคลิกที่ดีเหมาะสมกับเนื้อหาย่อมทำให้ผู้ใช้เข้าถึงเนื้อหาได้ดียิ่งขึ้น

-สไตล์ คือลักษณะการจัดโครงสร้างของหน้า รูปแบบกราฟิก ชนิดและการจัดตัวอักษร

3.สร้างความสม่ำเสมอตลอดทั่วทั้งไซต์

ความสม่ำเสมอของโครงสร้างหน้าเว็บและระบบเนวิเกชั่นทำให้ผู้ใช้รู้สึกคุ้นเคยและสามารถคาดการณ์ลักษณะของเว็บได้ล่วงหน้า

4.จัดวางองค์ประกอบที่สำคัญไว้ในส่วนบนของหน้าเสมอ

ส่วนบนของหน้า หมายถึง ส่วนแรกของหน้าที่จะปรากฏขึ้นในหน้ารวมบราวเซอร์ที่ยังไม่มีการเคลื่อนหน้าจอใดๆ

5.สร้างจุดสนใจด้วยความแตกต่าง

เราสามารถใช้ความแตกต่างของสีเข้ามาช่วยสร้างลักษณะเด่นในหน้าเว็บ เพื่อนำสายตาผู้อ่านไปยังส่วนสำคัญของเนื้อหาได้

6.จัดแต่งหน้าเว็บให้เป็นระเบียบและเรียบง่าย
เนื้อหาในหน้าเว็บจำเป็นต้องอยู่ในรูปแบบที่ดูง่าย แยกเป็นสัดส่วน และดูไม่แน่นจนเกินไป

7.ใช้กราฟิกอย่างเหมาสม

ควรใช้กราฟิกที่เป็นไอคอน ปุ่ม ลายเส้น และสิ่งอื่นๆตามความเหมาะสมและไม่มากเกินไป





บทที่ 7 การออกแบบเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับสิ่งแวดล้อม

ปัจจัยหลักที่เกี่ยวข้องกับการท่องเว็บไซต์
  • เบราเซอร์ที่ใช้ 
เบราเซอร์ คือ โปรแกรมที่ใช้เรียกดูหน้าเว็บเพจ โดยสามารถแสดงผลได้ทั้งรูปแบบตัวอักษร รูปภาพ และภาพเคลื่อนไหว 
  • ระบบปฏิบัติการของคอมพิวเตอร์ 
ระบบปฏิบัติการเป็นปัจจัยที่ทีผลต่อการทำงานของเบราเซอร์มาก โดยแต่ละระบบปฏิบัติการจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของชนิดและรุ่นของเบราเซอร์ที่ใช้ ระดับความละเอียดของหน้าจอ ชุดสีของระบบ และชนิดของตัวอักษรที่มาพร้อมกับระบบ เป็นต้น 
  •  ความละเอียดของหน้าจอ 
ความละเอียดของหน้าจอจะไม่ขึ้นกับขนาดของมอนิเตอร์ที่ใช้ แต่จะขึ้นกับประสิทธิภาพของการ์ดแสดงผลว่าสามารถทำได้ละเอียดแค่ไหน
  •  จำนวนสีที่จอของผู้ใช้สามรถแสดงได้
ชุดสีสำหรับเว็บ (Web Palette) หมายถึง ชุดสีจำนวน 216 สีที่มีอยู่เหมือนกันในระบบปฏิบัติการ Windows และ Mac
  •  ชนิดของตัวอักษรที่มี่อยู่ในเครื่องของผู้ใช้ 
เบราเวอร์จะแสดงฟอนต์ที่กำหนดไว้ในเว็บเพจได้ก็ต่อเมื่อ คอมพิวตอร์เครื่องนั้นมีฟอนต์เหล่านั้นที่ติดตั้งอยู่ในเครื่อง
  • ความเร็วในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต 
ความเร็วของอินเตอร์เน็ตจะมีผลต่อเวลาที่ใช้ในการแสดงผลของเว็บ 
  •  ขนาดของเบราเซอร์ 
ขนาดหน้าต่างของเบราเซอร์มีโอกาสที่ถูกปรับเปลี่ยนเป็นขนาดเท่าไหร่ก็ได้ตามความประสงค์ของผู้ใช้
  • ความสว่างและค่าความต่างของโทนสี
ผู้ออกแบบเว็บเพจตองระวังไม่ให้หน้าเว็บมีโทนสีมืดหรือสว่างจนเกินไป และคสรเลือกใช้โทนสีที่ต่างกันพอสมควร



บทที่ 8  เลือกใช้สีสำหรับเว็บไซต์(Designing Web Colors)

รูปแบบชุดสีพื้นฐาน(Simple Color Schemes)
  • ชุดสีร้อน(Warm Color Scheme) 
ประกอบด้วย สีม่วงแกมแดง แดงแกมม่วง ส้ม เหลือง และเขียวอมเหลือง 
สีเหล่านี้สร้างความรู้สึกอบอุ่น สบาย และรู้สึกต้อนรับแก่ผู้ชม 

  • ชุดสีเย็น(Cool Color Scheme) 
ประกอบด้วยสีม่วง น้ำเงิน น้ำเงินอ่อน ฟ้า น้ำเงินแกมเขียว และสีเขียว 
ชุดสีเย็นให้ความรู้สึกเย็นสบาย องค์ประกอบที่ใช้สีเย็นจะดูสุภาพ เรียบร้อย  

  • ชุุดสีแบบเดียว(Monochromatic Color Scheme) 
เป็บรูปแบบสีที่ง่ายที่สุด คือมีค่าของสีบริสุทธ์เพียงสีเดียว แต่เพิ่มความหลากหลายโดยการเพิ่มความเข้ม อ่อน ในระดับต่างๆ
ชุดสีแบบนี้ค่อนข้างจะมีความกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียว แต่ในบางครั้งอาจทำให้ดูไม่มีชีวิตชีวา เพราะขาดความหลากหลายของสี

  • ชุดสีแบบสามเส้า(Triadic Color Scheme) 
เป็นชุดสีที่อยู่ที่มุมของสามเหลี่ยมด้านเท่าทั้งสาม ซึ่งเป็นสีที่มีระยะห่างในวงล้อสีเท่ากัน จึงมีความเข้ากันอย่างลงตัว

  • ชุดสีที่คล้ายคลึงกัน(Analogous Color Scheme) 
ประกอบด้วยสี 2 หรือ 3 สีที่อยู่ติดกันในวงล้อ สามารถเพิ่มเป็น 4 หรือ 5 สีได้ แต่อาจส่งผลให้ขอบเขตของสีกว้างไป


  • ชุดสีตรงข้าม(Complementary Color Scheme) 
คือสีคู่ที่ตรงข้ามกันในวงล้อสี เมื่อนำสีทั้งสองมาใช้คู่กันจะทำให้สีทั้งสองมีความสว่างและสดใสมากขึ้น


  • ชุดสีตรงข้ามข้างเคียง(Split Complementary Color Scheme) 
เป็นชุดสีที่เปลี่ยนแปลงมาจากชุดสีตรงข้าม
ชุดสีแบบนี้มีความหลากหลายเพิ่มขึ้น แต่จะมีผลให้ความสดใส ความสะดุดตา และความเข้ากันของสีลดลงด้วย
ชุดสีตรงข้ามข้างเคียงทั้ง 2 ด้าน(Double Split Complementary Color Scheme)
ดัดแปลงมาจากชุดสีตรงข้ามเช่นกัน แต่สีตรงข้ามทั้ง 2 สี ถูกแบ่งแยกเป็นสีด้านข้างทั้ง 2 ด้าน
ชุดสีแบบนี้มีความหลากหลายของสีที่มากขึ้น แต่จะมีควมมสดใสและกลมกลืนของสีที่ลดลง





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น